ช่วงนี้เราคงจะได้ยินข่าวเรื่องของสุนัขบ้าที่ระบาดอยู่ทั่วกรุง จนทำให้หลายๆคนรู้สึกหวาดระแวงเมื่อมีสุนัขจรจัดเข้าใกล้ๆ แต่เชื่อไหมคะว่า “พิษสุนัขบ้า” นอกจากจะติดจากสุนัขแล้ว เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักรอบๆตัวเรา เช่น แมว หนูแฮมสเตอร์ กระรอก กระต่าย ก็เป็นพาหะนำโรคพิษสุนัขบ้าให้กับเราและคนที่เรารักได้เช่นกัน จึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ามาให้รู้จักกันค่ะ
โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากอะไร
โรค พิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ “เรบีส์” (Rabies virus) เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายของคนหรือสัตว์ก็ตาม เชื้อไวรัสนี้จะเข้าไปฝังตัวอยู่ในระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สมองและเยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดอาการอย่างรวดเร็วจนทำให้เสียชีวิตได้ และที่น่ากลัวที่สุดคือปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มียารักษา คนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อนี้มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง100 เปอร์เซ็นต์
การติดโรคและสัตว์อื่นที่เป็นพาหะ
เชื้อ ไวรัสเรบีส์ปนอยู่ในน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ และติดต่อ สู่คนผ่านทางบาดแผลหรือเนื้อเยื่ออ่อน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การถูกสุนัขกัด และน้อยคนนักที่จะทราบว่าคนที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าไม่จำเป็นต้องโดนกัด เสียจนเหวอะหวะ เพียงแค่ถูกสัตว์เลีย หรือข่วน หรือน้ำลายจากสัตว์ที่ติดเชื้อกระเด็นเข้าบาดแผล หรือเข้าตา จมูก ปาก ทวารหนัก หรือแม้แต่อวัยวะสืบพันธุ์ที่แม้จะไม่มีบาดแผลก็อาจทำให้ติดเชื้อโรคพิษ สุนัขบ้าได้เช่นกัน
เนื่องจากคนไทยเรียกโรคนี้ว่า โรคพิษสุนัขบ้า เป็นเหตุให้เรามักระวังแค่สุนัขเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ก็เป็นพาหะนำโรคพิษสุนัขบ้าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แมว หนู กระต่าย กระรอก กระแต ลิง ชะนี วัว ควาย ค้างคาว เป็นต้น โดยทั้งหมดส่งต่อเชื้อผ่านทางน้ำลายด้วยการกัด เลีย หรือน้ำลายกระเด็นโดนได้เช่นเดียวกับสุนัข
วิธีสังเกตอาการของสัตว์ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
สัตว์ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า มักมีอาการหลัก 2 ประเภท คือ
ทำอย่างไรเมื่อ....โดนกัดเข้าให้แล้ว
หลักที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ เมื่อถูกกัดไม่ว่าแผลจะใหญ่หรือเล็กไม่ว่าจะมีเลือดออกหรือไม่ แค่รอยข่วน รอยช้ำเขียว หรือแค่ถูกเลียก็ตาม หากไม่แน่ใจว่าสัตว์ตัวนั้นฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วหรือยัง ให้คิดไว้ก่อนเสมอว่าเป็นสัตว์ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
หากปล่อยไว้ ไม่ฉีดวัคซีน....
ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำๆ ใน 2-3 วันแรก อาจมีอาการเจ็บคอ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คันหรือปวดแสบปวดร้อนบริเวณแผลที่ถูกกัด ทั้งๆ ที่แผลอาจหายเป็นปกติแล้ว จากนั้นจะค่อยๆมีอาการทางระบบประสาท เช่น ตื่นเต้นง่าย กระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม กลัวเสียงดัง กลืนน้ำลำบากและเจ็บมากเวลากลืนเนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนเกิด อาการเกร็งตัว มักบ้วนน้ำทิ้ง เป็นที่มาของคำว่า “โรคกลัวน้ำ” ผู้ป่วยจะน้ำลายไหลมาก ต้องบ้วนทิ้ง อาละวาด เอะอะ และจะค่อยๆ เซื่องซึมลง ชัก เป็นอัมพาต ความดันโลหิตต่ำลง ช็อคและเสียชีวิตภายใน 5-13 วันหลังจากที่รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
ทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า
แม้อาการโรคพิษสุนัขบ้าจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่โรคนี้กลับสามารถป้องกันได้ง่ายมาก โดยการ
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์ในชุมชน ซึ่งประเทศไทยมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนนี้ฟรีจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จะกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2563
เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว เราลองเหลียวดูบรรดาสัตว์เลี้ยงของเรา สัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้าน หรือสัตว์จรจัดรอบๆตัวเราสิคะ ว่าได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครบทุกตัวแล้วหรือยัง ตามพระราชบัญญัติ โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ.2538 เมื่อสุนัขได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า จะต้องได้รับเหรียญแขวนคอ และใบรับรองการฉีดวัคซีนไว้เป็น หลักฐาน เมื่อท่านนำสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน โปรดขอรับเหรียญแขวนคอและแขวนให้สัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้พบเห็นทราบว่า สัตว์เลี้ยงของเราได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
ท่านทราบหรือไม่?
เชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เมื่ออยู่นอกร่างกายจะตายได้ง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น
อย่าลืมนะคะ...เมื่อสัมผัสน้ำลายสัตว์หรือโดนสัตว์กัด ต้องรีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่หลายๆครั้งและรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนค่ะ
ที่มา : ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
ขอขอบคุณ : ผู้เรียบเรียงบทความ เภสัชกรหญิงมนัญญา เนินทราย
ที่ปรึกษาบทความ : ดร. ร.อ.นพ. พันเลิศ ปิยะราช ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาโรคติดเชื้อ