ชื่อโรค |
สาเหตุ |
ระยะฟักตัว |
ซิฟิลิส |
เชื้อแบคทีเรีย
Treponema pallidum |
10 – 90 วัน (เฉลี่ย 21 วัน) |
หนองในแท้ |
เชื้อแบคทีเรีย
Neisseria gonorrhoeae |
2 – 7 วัน |
หนองในเทียม |
เชื้อแบคทีเรีย
Chlamydia trachomatis |
เฉลี่ย
7 วัน |
เริม |
เชื้อไวรัส Herpes simplex virus |
2 – 14 วัน |
เอชพีวี |
เชื้อไวรัส
Human papilloma virus |
3 เดือน จนถึงหลายปี |
ชื่อโรคติดต่อ |
อาการโรค |
ซิฟิลิส |
ระยะแรกจะมีแผลที่อวัยวะเพศ
เป็นขอบแข็ง ไม่เจ็บ ถ้าไม่ได้รักษา แผลจะหายได้เอง แต่โรคจะดำเนินต่อไป
มีผื่นขึ้นตามลำตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า ทวารหนัก และช่องปาก ผมร่วง ปวดข้อ
ถ้ายังไม่ได้รักษาอีก โรคจะเข้าสู่ระยะสงบ ไม่มีอาการ
ทราบได้จากการตรวจเลือดเท่านั้น หลังจากนั้นอีกหลายปีจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค
มีผิวหนังเป็นก้อนนูนแตกเป็นแผล กระดูกอักเสบ ตาบอด หูหนวก สมองพิการ
เส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจโป่งพอง และเสียชีวิตในที่สุด |
หนองในแท้ |
ผู้ป่วยชายจะมีอาการปัสสาวะแสบขัด
มีหนองข้นไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ ในขณะที่ผู้ป่วยหญิงอาจจะไม่มีอาการ
หรือมีอาการน้อย เช่น ตกขาว ถ้าไม่ได้รักษา
โรคจะลุกลามเกิดเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ ท่อรังไข่ตีบตัน ท่ออสุจิตีบตัน
ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นหมัน ผื่นขึ้นตามลำตัวและเยื่อบุ ปวดตามข้อ |
หนองในเทียม
|
มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองใสไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ
บางรายอาจไม่มีอาการ ถ้าไม่ได้รักษา
โรคจะลุกลามเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในลักษณะเดียวกับโรคหนองในแท้ |
เริม |
มีตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่ม ร่วมกับอาการปวด
แสบ และคันบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก บางรายมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่ริมฝีปาก
ในช่องปาก เมื่อมีการติดเชื้อเริมแล้วเชื้อจะหลบอยู่ในร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอจะสามารถทำให้เกิดโรคเริมกำเริบขึ้นได้ |
เอชพีวี |
ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหลังติดเชื้อ
จะแสดงอาการหลังติดเชื้อได้ 2 ลักษณะคือ อาการหูดหงอนไก่ มีลักษณะเป็นก้อนหรือติ่งเนื้อ ผิวขรุขระ และไม่เจ็บบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก
และอาการของโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศได้แก่ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งทวารหนัก |